

แต่ในมุมหนึ่ง กฎเกณฑ์นี้ก็ไม่ใช่เรื่องใหม่แต่อย่างใด เพราะทางการจีนได้กำกับดูแลให้ประชาชน ได้ใช้ชื่อจริงในการลงทะเบียนเข้าใช้บริการต่างๆ บนโลกออนไลน์อยู่แล้ว และทางการจีนก็ขับเคลื่อนเกี่ยวกับประเด็นนี้ในหลายๆ ระดับเป็นเวลากว่า 3 ปีมาแล้ว แต่ความแตกต่างอย่างชัดเจนในตอนนี้คือ บริษัทผู้ให้บริการด้านอินเทอร์เน็ตในประเทศจีนได้ให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ เพื่อให้มั่นใจได้ว่า ประชาชนผู้ใช้งานบริการต่างๆ บนโลกอินเทอร์เน็ต จะลงชื่อเข้าใช้งานด้วยชื่อจริงอย่างถูกต้องครบถ้วน และหากบริษัทผู้ให้บริการ ได้พบข้อมูล หรือความเคลื่อนไหวใดๆ ที่ผิดกฎหมาย ก็ต้องรายงานให้รัฐบาลทราบ
และถึงแม้ประเทศจีนจะมีความพยายามในการควบคุมการใช้งานอินเทอร์เน็ตของประชาชน ก็ยังพบว่ามีผู้คนจำนวนหนึ่ง พยายามหลบซ่อนตัวตนที่แท้จริงใน Weibo ซึ่งเป็นบริการโซเชียลเน็ตเวิร์กของชาวจีนที่คล้ายๆ กับ Twitter และมีการหลบซ่อนตัวตนในบริการออนไลน์อื่นๆ ด้วย รวมถึงมีการใช้ VPN เพื่อหลบเลี่ยง Firewall ของทางการจีน ซึ่งสิ่งนี้เป็นที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย แต่เมื่อทางการจีนเริ่มคุมเข้มการใช้งานอินเทอร์เน็ตมากขึ้น การหลบเลี่ยงด้วย VPN ก็ทำได้ยากขึ้น และที่เพิ่งเป็นข่าวไปเมื่อช่วงต้นเดือนสิงหา กับการที่ทาง Apple ถอดแอพ VPN ออกจาก iTune store ของประเทศจีน ก็เป็นข้อพิสูจน์ที่ชัดเจนว่า ทางการจีนนั้นจริงจังกับการควบคุมสื่ออินเทอร์เน็ตขนาดไหน
และถึงแม้ประเทศจีนจะมีความพยายามในการควบคุมการใช้งานอินเทอร์เน็ตของประชาชน ก็ยังพบว่ามีผู้คนจำนวนหนึ่ง พยายามหลบซ่อนตัวตนที่แท้จริงใน Weibo ซึ่งเป็นบริการโซเชียลเน็ตเวิร์กของชาวจีนที่คล้ายๆ กับ Twitter และมีการหลบซ่อนตัวตนในบริการออนไลน์อื่นๆ ด้วย รวมถึงมีการใช้ VPN เพื่อหลบเลี่ยง Firewall ของทางการจีน ซึ่งสิ่งนี้เป็นที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย แต่เมื่อทางการจีนเริ่มคุมเข้มการใช้งานอินเทอร์เน็ตมากขึ้น การหลบเลี่ยงด้วย VPN ก็ทำได้ยากขึ้น และที่เพิ่งเป็นข่าวไปเมื่อช่วงต้นเดือนสิงหา กับการที่ทาง Apple ถอดแอพ VPN ออกจาก iTune store ของประเทศจีน ก็เป็นข้อพิสูจน์ที่ชัดเจนว่า ทางการจีนนั้นจริงจังกับการควบคุมสื่ออินเทอร์เน็ตขนาดไหน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น